fish-oil-ประโยชน์

Fish oil ประโยชน์ของน้ำมันปลาต่อสุขภาพมีอะไรบ้างมาดูกันเลย

           Fish Oil ประโยชน์ คือ น้ำมันที่สกัดมาจากปลาแหล่งธรรมชาติที่มีไขมันสูง เช่น ปลาทูน่า ปลาแมกเคอเรล ปลาเฮอร์ริง และปลาแซลมอน เป็นต้น มีส่วนประกอบคือ โอเมก้า-3 ซึ่งเป็นกรดไขมันไม่อิ่มตัว และเป็นกรดไขมันที่มีความจำเป็นต่อร่างกาย เพราะร่างกายไม่สามารถสร้างขึ้นมาเองได้ จึงต้องได้รับจากการบริโภคอาหารเท่านั้น
            กระบวนการสกัด fish oil นั้นสกัดออกมาจากส่วนต่างๆ ของปลาไม่ว่าจะเป็น เนื้อปลา หนังปลา หางปลา หัวปลา โดยจากการศึกษาผลวิจัยทางการแพทย์พบว่า fish oil มีประโยชน์อย่างต่อร่างกายหลากหลายเลยทีเดียว

fish-oil-ประโยชน์

สารบัญ

Fish oil ประโยชน์ต่อร่างกายครอบคลุมหลากหลายระบบ

เมื่อเทียบความนิยมในการซื้อมารับประทานของคนทั่วโลก หลายๆคนคงทราบกันดีอยู่แล้วว่า fish oil นั้น คือ สารอาหารจากธรรมชาติที่อัดแน่นไปด้วยคุณประโยชน์ของน้ำมันปลาต่างๆ ที่ร่างกายจำเป็น แต่อาจจะยังไม่ทราบว่า Fish Oil มีประโยชน์ต่อระบบอะไรของร่างกายบ้าง มาหาคำตอบกันได้ที่ด้านล่างนี้เลย

  • ระบบหัวใจและสมอง

fish oil มีประโยชน์ในการช่วยลดไขมันในเลือด ยับยั้งการเกาะตัวของเกล็ดเลือด และช่วยป้องกันการอุดตันของหลอดเลือดที่ไปเลี้ยงส่วนต่างๆ เช่น หัวใจและสมอง

  • ระบบหลอดเลือด

fish oil มีประโยชน์ต่อหลอดเลือด ทำให้ระบบการไหลเวียนของเลือดดีขึ้น ลดอัตราการเต้นของหัวใจที่ผิดปกติ ลดความดัน

  • ลดระดับไขมันไตรกลีเซอร์ไรด์ในเลือด

fish oil มีประโยชน์ต่อผู้ที่มีไขมันไตรกลีเซอไรด์ในเลือดสูง เพราะจากผลวิจัยระบุไว้ว่าสามารถช่วยลดไขมันร้ายดังกล่าวได้ 20% – 50% ปลอดภัยต่อรางกายและไม่มีผลข้างเคียง

  • ลดปัญหาอาการข้อเสื่อมหรืออักเสบ

fish oil มีประโยชน์จากกรดไขมัน Omega-3 ที่สามารถช่วยลดอาการอักเสบของกระดูกละข้อต่อในผู้ที่มีภาวะข้อเสื่อมและข้ออักเสบรูมาตอยด์ โรคข้ออักเสบ เพราะ EPA สามารถช่วยลดสารที่ก่อให้เกิดอาการอักเสบ ปวดและบวมได้ และยังกระตุ้นการสร้างสารที่มีคุณสมบัติช่วยให้อาการอักเสบต่างๆจากข้อลดลง

  • ระบบการทำงานของเซลล์สมอง

fish oil มีประโยชน์ต่อการช่วยป้องกันโรคสมองเสื่อมหรือโรคอัลไซเมอร์ได้ เพราะมี DHA ที่ช่วยเพิ่มสารที่เสริมการสร้างเส้นใยในสมอง

fish-oil-ประโยชน์

น้ำมันปลาควรกินตอนไหนและน้ำมันปลากินต่อเนื่องได้ไหม

โดยปกติแล้วควรรับประทาน Fish Oil พร้อมอาหารหรือหลังอาหาร เพราะร่างกายจะดูดซึมสารอาหารได้ดีกว่าในช่วงที่ท้องว่าง ดังนั้นกิน Fish Oil ประโยชน์ควรกินพร้อมกับมื้ออาหารหรือหลังจากกินอาหารเข้าไปแล้ว ร่างกายได้รับประโยชน์สูงสุด และควรกิน Fish Oil ภายในระยะเวลาไม่เกิน 30 นาทีหลังจากมื้ออาหาร

น้ำมันปลาสำหรับคนท้อง ส่วนคนท้องทานสามารถทาน Fish Oil ได้นะคะ เพราะ fish oi lมี DHA ส่งผลดีต่อสมองของเด็ก แต่แนะนำให้หยุดทานประมาณ 2 เดือนก่อนคลอดบุตร และควรแจ้งข้อมูลกับแพทย์ทุกครั้งว่าทานวิตามินอะไรอยู่บ้าง เพื่ออยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ค่ะ

และสิ่งที่หลายๆคนกังวลเลยว่า Fish Oil สามารถทานต่อเนื่องได้หรือไม่ คำตอบคือจริงๆแล้วเราควรกินอย่างต่อเนื่องและสม่ำเสมอ เพื่อให้ร่างกายได้รับกรดไขมันโอเมก้า 3 อย่างพอเพียง แต่ควรกินในปริมาณที่เหมาะสมเท่านั้น เพราะหากทานfish oilมากเกินไปหรือเกินกำหนด อาจเป็นการเพิ่มปริมาณแคลอรี่ที่เราควรได้รับต่อวัน จนอาจส่งเสียต่อร่างกายในทางกลับกันได้

น้ำมันคริลล์ และ fish oil แตกต่างกันอย่างไร

หลายๆคนอาจจะคิดว่าทั้ง fish oil และน้ำมันคริลล์มีกรดไขมันโอเมก้า-3 เหมือนๆกันจะเลือกกินอะไรก็ได้ แต่รู้หรือไม่ว่า fish oil และน้ำมันคริลล์นั่นมี DHA และ EPA และ Omega 3 เหมือนกันเท่านั้น แต่น้ำมันคริลล์จะแตกต่างกว่าตรงที่มีทั้ง Omega 3, 6, 9 และแอสตร้าแซนทีสที่ด้วยต้านสารอนุมูลอิสระอีกด้วย ซึ่งกรดไขมันจำเป็นเหล่านี้สามารถช่วยลดไตรกลีเซอไรด์ และลดอาการปวดและอักเสบในผู้ที่เป็นโรคไขข้ออักเสบได้

Fish oil เมื่อสกัดออกมาโดยทั่วไปจะมีสีขาวหรือสีเหลืองใส  และจำเป็นต้องผ่านกระบวนการทำให้บริสุทธิ์เพิ่มเติมเพื่อขจัดโลหะหนักที่อาจมีอยู่ จึงทำให้มีความสามารถในการต่อต้านสารอนุมูลอิสระต่ำ

น้ำมันคริลล์นั้นสกัดมาจากตัวเคย ซึ่งเป็นสัตว์พวกกุ้ง กั้ง ปูที่กินแพลงก์ตอนพืชและสาหร่ายทะเลเป็นอาหาร อยู่ในระดับล่างสุดของห่วงโซ่อาหาร และลึกลงไปในธรรมชาติ ดังนั้นน้ำมันคริลล์จึงไม่มีหรือแทบจะไม่มีการสัมผัสกับโลหะเลย หลังจากขั้นตอนการสกัดแล้วจึงไม่จำเป็นต้องผ่านกระบวนการทำให้บริสุทธิ์เพิ่มจึงรักษาคุณค่าทางโภชนาการไว้ได้มากกว่า และ Fish Oil ทั่วไปที่มีแค่ omega 3 ที่จับกับไตรกีเซอร์ไลน์นั้นเป็นไขมันชนิดหนึ่งที่ไม่ละลายน้ำ ทำให้เวลารับประทาน Fish Oil จะได้ประโชยน์ที่สุดก็คือ กระเพาะอาหารจำเป็นต้องมีตัวช่วยก็คือ emulsifier เพื่อให้ Fish Oil ประโชยน์รวมตัวกับน้ำและดูดซึมเข้าสู่ร่างกายได้ดี ดังนั้นในเรื่องของการดูดซึม น้ำมันคริลล์จะดีกว่า Fish Oil ค่ะ

มารีนโอเมก้า

มารีน โอเมก้า (Marine Omega) ผลิตภัณฑ์ Fish oil และ Krill oil

ดังนั้นหากคุณกำลังมองหา fish oil ที่มีทั้ง fish oil และน้ำมันคริลล์ด้วยแล้วหล่ะก็ แนะนำมารีนโอเมก้า (Marine Omega) เลยค่ะ

เพราะมารีน โอเมก้า (Marine Omega)  นั้นมีสารสกัดจาก fish oil และน้ำมันคริลล์ ที่ให้กรดไขมันจำเป็นโอเมก้า 3 ที่บริสุทธิ์ส่งเสริมระบบภูมิคุ้มกันที่เป็นปกติ มีผลดีต่อการบำรุงหัวใจและหลอดเลือด สุขภาพข้อต่อ สุขภาพสมองและความจำ และสุขภาพผิว ลดการอักเสบ การเกิดโรคเรื้อรัง เสริมสร้างบำรุงสมองและระบบความจำ ซึ่งเป็นโอเมก้า 3 ที่มีคุณภาพสูง ที่ได้จากการสกัดมาจากปลาน้ำลึกทั้งตัวรวมทั้งมีน้ำมันคริลล์หรือที่เราเรียกว่า “คริลล์ ออยล์” อีกด้วย 

ความพิเศษของ “คริลล์” คือ น้ำมันคริลล์มีสัดส่วนของกรดไขมัน โอเมก้า 3 ต่อ โอเมก้า 6 สูงประ มาณ 15: 1 และ มีส่วนประกอบของ แคโรทีนอยด์ และ ฟลาโวนอยด์ ซึ่งมีประสิทธิภาพในการต้านอนุมูลอิสระสูงกว่าวิตามินอีถึง 550 เท่า และนอกจากนี้น้ำมันคริลล์ยังมีส่วนประกอบของฟอสโฟไลปิดสูงถึง 40% ในขณะที่แหล่งกรดไขมัน โอเมก้า 3 อื่นๆ จะไม่พบฟอสโฟไลปิด คริลล์ที่นำมาสกัดนั้นมีแหล่งที่อาศัยอยู่ในมหาสมุทธแอนตาร์กติกา โดยคริลล์ ออยล์ จะเป็นสารต้านอนุมูลอิสระคุณภาพสูง นอกจากนี้ fish oilของบริษัทนูสกิน ยังมีกลิ่นที่หอม และรับประทานง่าย ไม่รู้สึกคาวด้วยค่ะ 

สรุป fish oil ประโยชน์

การทาน fish oil เพื่อให้ร่างกายได้รับโอเมก้า 3 อย่างต่อเนื่องและสม่ำเสมอเป็นสิ่งที่ดีค่ะ เพราะร่างกายเราไม่สามารถสร้างโอเมก้า 3 เองได้ สามารถทานได้ในทุกเพศทุกวัย โดยเฉพาะผู้ที่ต้องการดูแลตัวเอง เพื่อป้องกันความเสี่ยงการเกิดโรคต่างๆค่ะ

นูสกินโปรโมชั่น