วัยทอง กระดูกพรุน

ทำไม ‘ ผู้หญิงวัยทอง ’ ถึงเสี่ยงต่อการเกิดโรคกระดูกพรุน

ผู้หญิงวัยทอง มักจะต้องเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงทางร่างกายและอารมณ์มากมาย รวมไปถึงความเสี่ยงในการเกิดโรคกระดูกพรุนอีกด้วย โรคกระดูกพรุนนี้เป็นภาวะที่กระดูกเปราะบางและแตกหักง่าย ซึ่งอาจทำให้คุณภาพชีวิตลดลงและเพิ่มความเสี่ยงในการเสียชีวิตได้ ผู้หญิงวัยทองมีความเสี่ยงในการเกิดโรคกระดูกพรุนสูง 

บทความนี้จะมาแนะนำถึงวิธีป้องกันโรคกระดูกพรุน ปัจจัยเสี่ยง และการดูแลสุขภาพกระดูกที่เหมาะสมในผู้หญิงวัยทอง เพื่อให้คุณหรือบุคคลในครอบครัวที่กำลังเผชิญกับวัยทองอยู่มีคุณภาพชีวิตที่ดีในระยะยาวกันค่ะ

วัยทอง กระดูกพรุน

สารบัญ

วัยหมดประจำเดือน ทำไมเสี่ยงกระดูกพรุน

วัยทอง หรือ วัยหมดประจำเดือน (Menopause) เป็นช่วงการเปลี่ยนแปลงของร่างกายผู้หญิง ฮอร์โมนเอสโตรเจน (Estrogen) และฮอร์โมนโปรเจสเตอโรน (Progesterone) ซึ่งเป็นฮอร์โมนเพศหญิงจะลดลงอย่างรวดเร็ว จึงส่งผลให้ผู้หญิงวัยทองมีความเสี่ยงต่อโรคกระดูกพรุนมากกว่าผู้หญิงวัยอื่น ๆ หลายเท่านั่นเอง

 

ฮอร์โมนเอสโตรเจนมีหน้าที่สำคัญในการช่วยเสริมสร้างมวลกระดูกและป้องกันกระดูกสลายตัว โดยปกติแล้ว ร่างกายจะสร้างกระดูกใหม่เพื่อทดแทนกระดูกเก่าที่สูญเสียไปตลอดเวลา ในช่วงวัยเจริญพันธุ์ ร่างกายจะสร้างกระดูกใหม่ได้เร็วกว่าการสลายตัว ทำให้มวลกระดูกเพิ่มขึ้นและแข็งแรงขึ้น แต่เมื่อเข้าสู่วัยทอง ระดับฮอร์โมนเอสโตรเจนจะลดลง ทำให้การสลายตัวของกระดูกเร็วกว่าการสร้างกระดูกใหม่ ส่งผลให้มวลกระดูกลดลงอย่างรวดเร็วใน 5 ปีแรกหลังหมดประจำเดือน โดยเฉพาะอย่างยิ่งบริเวณกระดูกสันหลัง กระดูกสะโพก และกระดูกข้อมือค่ะ

กระดูกพรุนคืออะไร?

โรคกระดูกพรุน (Osteoporosis) คือ โรคกระดูกที่มวลกระดูกลดลงจนทำให้กระดูกเปราะบาง แตกหักง่าย โรคนี้สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคน แต่ผู้หญิงวัยหมดประจำเดือนจะมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้น เนื่องจากฮอร์โมนเอสโตรเจนในร่างกายลดลงอย่างรวดเร็วในช่วงวัยทอง ซึ่งฮอร์โมนเอสโตรเจนมีหน้าที่สำคัญในการช่วยเสริมสร้างมวลกระดูกและป้องกันกระดูกสลายตัว

โรคกระดูกพรุนในวัยทอง

สาเหตุที่ทำให้คุณเสี่ยงเป็นกระดูกพรุนหลังประจำเดือนหมด คืออะไร

เมื่อเข้าสู่ช่วงวัยหมดประจำเดือน ร่างกายของผู้หญิงจะผลิตฮอร์โมนเอสโตรเจนได้ช้าลง ทำให้ระดับฮอร์โมนเอสโตรเจนในร่างกายลดลงอย่างมาก และเมื่อฮอร์โมนเอสโตรเจนไม่เพียงพอ ดังนั้นการสลายของมวลกระดูกจึงมีมากกว่าการเสริมสร้างซ่อมแซม ทำให้มวลกระดูกลดลงอย่างรวดเร็ว โดยปกติแล้วกระดูกจะมีลักษณะเป็นรูพรุนคล้ายฟองน้ำที่เคยได้รับการเติมเต็มด้วยมวลกระดูก เมื่อความหนาแน่นของกระดูกลดลง กระดูกจึงเปราะ และแตกหักได้ง่ายขึ้นนั่นเอง

อาการของกระดูกพรุนเป็นอย่างไร

โดยทั่วไป โรคกระดูกพรุนมักไม่มีอาการ ผู้ป่วยจะรู้ตัวก็ต่อเมื่อกระดูกหักแล้วเท่านั้น กระดูกที่มักจะเกิดการหักจากโรคกระดูกพรุน ได้แก่ กระดูกบริเวณสันหลัง กระดูกสะโพก และกระดูกข้อมือ

ผู้หญิงวัยทองต้องเจอความเปลี่ยนแปลงทั้งในด้านร่างกายและจิตใจ การเปลี่ยนแปลงด้านร่างกายที่สำคัญ ได้แก่

  • ประจำเดือนมาไม่ปกติ มาติดกันหรือห่างจากกันมาก บางรายอาจมีเลือดออกผิดปกติ
  • อาการร้อนวูบ เหงื่อออก โดยที่อากาศไม่ได้ร้อน หรือมีเหงื่อในเวลากลางคืน บางครั้งรู้สึกเหมือนหนาวสั่น ใจสั่น
  • ช่องคลอดแห้ง คัน ตกขาวผิดปกติ ปัสสาวะบ่อย กลั้นปัสสาวะไม่ค่อยได้
  • ความต้องการทางเพศลดลง
  • ความเสี่ยงต่อโรคกระดูกพรุน

 

การเปลี่ยนแปลงด้านจิตใจที่สำคัญ ได้แก่

  • อารมณ์แปรปรวน หงุดหงิดง่าย ซึมเศร้า วิตกกังวล
  • ความจำเสื่อม ความจำสั้น
  • นอนไม่หลับ
  • ปัญหาสุขภาพจิตอื่น ๆ เช่น โรคซึมเศร้า โรควิตกกังวล

วิธีตรวจวินิจฉัยกระดูกพรุนสามารถทำได้อย่างไรบ้าง

โดยปกติแล้วแพทย์จะใช้เครื่องตรวจวัดมวลกระดูก (Bone densitometry) เพื่อวัดความหนาแน่นของกระดูก หากความหนาแน่นของกระดูกต่ำกว่าปกติ แพทย์จะวินิจฉัยว่าเป็นโรคกระดูกพรุนค่ะ

นอกจากระดับฮอร์โมนเอสโตรเจนแล้ว ยังมีปัจจัยอื่น ๆ ที่อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคกระดูกพรุนในผู้หญิงวัยทอง ได้แก่

  • ครอบครัวมีประวัติเป็นโรคกระดูกพรุน
  • น้ำหนักตัวน้อย
  • ขาดการออกกำลังกาย
  • รับประทานอาหารที่มีแคลเซียมและวิตามินดีไม่เพียงพอ
  • สูบบุหรี่
  • ดื่มแอลกอฮอล์
ผู้หญิงวัยทอง

วิธีป้องกันโรคกระดูกพรุนในผู้หญิงวัยทอง

อาการวัยทองจะแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล บางคนอาจมีอาการรุนแรง ในขณะที่บางคนอาจมีอาการเพียงเล็กน้อยหรือแทบไม่มีอาการเลย โดยทั่วไปแล้ว อาการวัยทองจะค่อย ๆ ดีขึ้นเองเมื่อเวลาผ่านไป อย่างไรก็ตาม ผู้หญิงวัยทองสามารถดูแลตัวเองเพื่อบรรเทาอาการและลดความเสี่ยงต่อปัญหาสุขภาพต่าง ๆ ได้ไม่ยากค่ะ

คำแนะนำสำหรับผู้หญิงวัยทองในการดูแลสุขภาพกระดูกให้แข็งแรง มีดังนี้

  • รับประทานอาหารที่มีแคลเซียมและวิตามินดีเพียงพอ โดยควรได้รับแคลเซียมอย่างน้อย 1,200 มิลลิกรัมต่อวัน และวิตามินดีอย่างน้อย 800 IU ต่อวัน แหล่งแคลเซียมที่พบได้ทั่วไป ได้แก่ นม ผลิตภัณฑ์จากนม ปลา ถั่ว และผักใบเขียวเข้ม แหล่งวิตามินดี ได้แก่ แสงแดด ปลาที่มีไขมันสูง เช่น ปลาแซลมอน ปลาทูน่า ปลาซาร์ดีน และไข่แดง หรือทานตัวช่วย Calcimor แคลซิมอร์วิตามินบำรุงกระดูก
  • ออกกำลังกายเป็นประจำอย่างน้อยสัปดาห์ละ 3 ครั้ง ครั้งละ 30 นาที การออกกำลังกายที่ช่วยให้กระดูกแข็งแรง ได้แก่ การยกน้ำหนัก การเดิน การวิ่ง และการเต้นรำ
  • หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์ เพราะการสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์เป็นปัจจัยที่เพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคกระดูกพรุนได้
  • ตรวจเช็คมวลกระดูกเป็นประจำ การตรวจเช็คมวลกระดูกจะช่วยให้แพทย์ประเมินความเสี่ยงต่อโรคกระดูกพรุนและแนะนำแนวทางการดูแลสุขภาพกระดูกที่เหมาะสม

การดูแลสุขภาพกระดูกอย่างเหมาะสมตั้งแต่วัยทองจะช่วยป้องกันโรคกระดูกพรุนและลดความเสี่ยงในการเกิดกระดูกหักได้ หากผู้หญิงวัยทองมีความเสี่ยงต่อโรคกระดูกพรุน ควรปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญ เพื่อรับคำแนะนำในการดูแลสุขภาพกระดูกอย่างเหมาะสมนะคะ

aekhlechiiym aekhlchim r esrimsraangkraduuk 5258 82556271 2cc45e0be8a7c577136ce6700760fd0d

สรุป โรคกระดูกพรุนในวัยทอง

การดูแลสุขภาพกระดูกที่เหมาะสมสำหรับผู้หญิงวัยทองนั้นเป็นสิ่งสำคัญ เพราะโรคกระดูกพรุนเป็นภาวะที่กระดูกเปราะบางและแตกหักง่าย เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนเอสโตรเจนและโปรเจสเตอโรนในร่างกาย  ซึ่งฮอร์โมนเหล่านี้มีหน้าที่สำคัญในการช่วยสร้างกระดูกและยับยั้งการสลายกระดูก เมื่อระดับฮอร์โมนลดลง การสลายกระดูกจะเพิ่มมากขึ้น ส่งผลให้มวลกระดูกลดลงอย่างรวดเร็ว 

ดังนั้นการป้องกันโรคกระดูกพรุนสามารถทำได้ด้วยการดูแลให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพกระดูก เช่น การรับประทานอาหารที่มีแคลเซียมอย่างเพียงพอ เพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดกระดูกหักและช่วยให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีในระยะยาวค่ะ

นูสกินโปรโมชั่น