ดูแลตัวเองจากฝุ่น pm2.5

ดูแลตัวเองจากฝุ่น pm2.5 อย่างไร ให้ปลอดภัย

            ในปัจจุบันนี้นับว่าเป็นเรื่องปกติที่เมืองใหญ่อย่างเมืองหลวงมากมายหลายประเทศจะต้องเผชิญกับปัญของฝุ่น pm 2.5 และปัญหามลพิษจากฝุ่นละอองในอากาศอยู่เสมอ เนื่องจากการที่มีประชากรที่หนาแน่นต้องใช้การเดินทางสัญจรผ่านรถยนต์ต่างๆที่เกิดเขม่าควัน รวมไปถึงควันจากโรงงานและฝุ่นผงจากการก่อสร้างอาคารต่างๆเช่นกัน ซึ่งฝุ่นละอองขนาดเล็กกว่า 2.5 ไมครอนนี้ ไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า และทำให้หลายๆท่านอาจขาดความตระหนักถึงอันตรายต่อสุขภาพและลืมดูแลตัวเองจากฝุ่น pm 2.5

สารบัญ

ดูแลตัวเองจากฝุ่น pm2.5

ฝุ่นละอองจิ๋ว PM2.5 ที่คุกคามพวกเรามาจากไหน?

         ที่มาในการเพิ่มการเกิด pm 2.5 นั้นมีอยู่หลายปัจจัยมากๆ โดยส่วนใหญ่นั้นจะเกิดจากการเผาไหม้เครื่องจักรและเครื่องยนต์    ซึ่งไม่ว่าจะเป็นจากทั้งรถยนต์ใหม่หรือเก่าก็มักจะมีปริมาณที่สูงมากๆในช่วงที่รถติด ทั้งในช่วงเช้าและเย็นของวันทำงานนั่นเอง แต่ในบางครั้งนั้นเราจะสามารถมองเห็นว่ามีปริมาณฝุ่น pm 2.5 ในปริมาณที่มากได้ใช่ช่วงฤดูหนาวที่อากาศนิ่งและแห้ง ส่งผลให้ฝุ่นไม่ลอยขึ้นที่สูง โดยมองด้วยตาเปล่าอาจคิดว่าคล้ายหมอกแต่ไม่ใช่ อีกทั้งอากาศหยุดนิ่ง ไม่มีลมพัดผ่านได้ดี เพราะมีตึกสูงปิดกั้นทางลมอยู่มากมาย รวมถึงฝุ่นจากการก่อสร้างอาคารต่างๆที่มีอยู่แทบทุกพื้นที่ในกรุงเทพ ทำให้สภาพอากาศแย่ลง

        ช่วงนี้อากาศบ้านเรานั้นเต็มไปด้วยฝุ่นมลพิษ PM 2.5 ที่มีมีค่ามลภาวะทางอากาศค่อนข้างสูงมาก ติดอันดับต้นๆ ของโลกเลยก็ว่าได้ ดังนั้นวันนี้เราจะมาอธิบายให้ทุกคนตระหนักถึงอันตรายและวิธีการดูแลตัวเองจากฝุ่น pm 2.5 กันว่า ฝุ่น PM2.5 มีผลเสียต่อร่างกายและผิวหนังอย่างไรบ้าง และเราจะดูแลตัวเองจากฝุ่น pm2.5 ได้อย่างไรกันบ้าง ตามมาดูกันค่า

ฝุ่น PM 2.5 คืออะไร?

PM ย่อมาจาก (Particulate Matters) และ PM 2.5 คือฝุ่นละอองจิ๋วในอากาศที่มีขนาดอนุภาคเล็กมากๆ ขนาดเล็กกว่า2.5ไมครอน หรือไมโครเมตร จึงมองด้วยตาเปล่าไม่เห็น แต่ถ้าหากฝุ่นนี้มีปริมาณสูงมากๆในอากาศพื้นที่ไหน พื้นที่นั้นจะดูคล้ายกับมีหมอกหรือควันนั่นเอง ดังนั้นเราจึงควรให้ความสำคัญต่อการดูแลตัวเองจากฝุ่น pm2.5 ด้วย

และหากถามว่าสาเหตุส่วนใหญ่คืออะไรที่ทำให้เกิดฝุ่นจิ๋วนี้ขึ้น คำตอบก็คือ มาจากการเผาไหม้จากท่อไอเสียของเครื่องยนต์รถยนต์ต่างๆ ควันมลพิษจากโรงงาน ควันบุหรี่ การเผาขยะและเผาหญ้าเป็นต้น

ฝุ่นจิ๋ว pm 2.5 มีภัยร้ายแรงหรือผลเสียต่อร่างกายอย่างไรบ้าง?

ด้วยขนาดที่เจ้าฝุ่นจิ๋วนี้เล็กกว่า 2.5 ไมครอน ทำให้ฝุ่นละอองพิษ PM2.5 นั้นสามารถลอดผ่านการกรองของขนจมูก ไปยังหลอดลมลงลึกจนถึงถุงลมปอดและบางอนุภาคยังอาจเข้าสู่กระแสเลือดได้อีกด้วย เป็นสาเหตุที่ก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพตามมาได้อีกมากมาย

  • ผลเสียต่อทางเดินหายใจและปอด

ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าภาวะมลพิษในอากาศนั้นย่อมส่งผลโดยตรงกับระบบทางเดินหายใจและปอด ยิ่งเมื่อฝุ่นละอองนี้มีขนาดเล็กกว่า2.5ไมครอน หรือไมโครเมตร ที่ไม่สามารถมองเห็นด้วยตาเปล่า สามารถลอดผ่านการกรองของจมูกเข้าสู่ทางเดินหายใจได้ง่ายและรวดเร็ว ส่งผลให้ผู้ที่เป็นป่วยโรคหอบหืดกำเริบ หรือเป็นสาเหตุให้คนทั่วไปเริ่มป่วยเป็นหอบหืดได้เช่นกัน และหากเจอมลพิษนี้ผ่านทางระบบหายใจและปอดจนสะสมเป็นเวลานานก็ อาจเป็นปัจจัยที่ทำให้เกิดมะเร็งปอดได้

  • ผลเสียต่อหัวใจ

การสูดดมฝุ่นละอองนี้ผ่านระบบทางเดินหายใจเป็นเวลาต่อเนื่อง สามารถส่งผลให้เกิดการตะกอนภายในหลอดเลือด จนทำให้เกิดหัวใจวายหรือภาวะหลอดเลือดสมองตีบได้ นอกจากนั้นยังมีโอกาสที่จะส่งผลต่อเซลล์กล้ามเนื้อหัวใจ ทำให้หัวใจเต้นผิดจังหวะ และร้ายแรงที่สุดอาจส่งผลให้หัวใจวายเฉียบพลัน

  • ผลเสียต่อสมอง

เมื่อ pm 2.5 เกิดการสะสมขึ้นในร่างกายผ่านเข้าสู่ทางกระแสเลือด อาจส่งผลให้ความดันโลหิตสูง และเลือดมีความข้นหนืด ซึ่งก่อให้เกิดความเสี่ยงลิ่มเลือดในสมอง รวมไปถึงหลอดเลือดแดงในสมองแข็งตัว ส่งผลให้เส้นเลือดในสมองตีบ แตก และเป็นสาเหตุของโรคอัมพฤกษ์อัมพาตได้

pm 25 news update 2020 1080x630 1

ฝุ่น PM 2.5 มีผลเสีย หรืออันตรายต่อผิวอย่างไรบ้าง?

สำหรับฝุ่นละออง pm 2.5 ที่มีขนาดเล็กมากๆ แน่นอนว่าเล็กกว่าขนาดของรูขุมขนของเรา ดังนั้นฝุ่นจิ๋วนี้ จึงสามารถซึมผ่านเข้าผิวหนัง ทำให้ผิวหนังอักเสบ เกิดผดผื่น มีอาการระคายเคืองผิว ผิวแดงและคันร่วมด้วยได้ โดยเฉพาะคนที่มีปัญหาผิวแพ้ง่ายหรือโรคภูมิแพ้ผิวหนังอยู่แล้ว จะยิ่งมีโอกาสที่ผิวหนังจะอักเสบเกิดอาการผื่นคันกำเริบได้ง่าย นอกจากนี้ยังส่งผลให้ผิวหน้ามันขึ้น และทำให้เกิดการอุดตันของผิว เป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดสิว กระตุ้นการเกิดอนุมูลอิสระที่จะทำลายผิว ผิวเกิดจุดด่างดำและริ้วรอยเหี่ยวย่นก่อนวัย

วิธีช่วยกันลดการสร้างฝุ่นมลพิษ pm 2.5

สิ่งที่ก่อให้เกิดมลพิษฝุ่นจิ๋วนี้ได้มากที่สุดมาจากการที่ควันรถปล่อยออกมาในช่วงเวลาที่รถติดมากๆ ซึ่งหากเราลดการใช้รถยนต์ส่วนตัวหรือเดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัวแต่เดินทางพร้อมกันหลายๆคน เช่น ทางเดียวกันไปด้วยกัน และหันมาใช้รถขนส่งสาธารณะมากขึ้น ช่วยกันปลูกต้นไม้เพื่อช่วยดูดซับฝุ่นมลพิษ ลดการเผาขยะหรือ สูบบุหรี่เพื่อลดการเผาไหม้

นอกจากนี้เรายังมีวิธีดีๆที่ใกล้ตัวมาเสนอ เพื่อให้ทุกคนช่วยกันลดการสร้างและดูแลตัวเองจากฝุ่น pm2.5 เพิ่มเติมกันอีกด้วยค่ะ

  1. ช่วยกันแยกขยะลดการเผา งดจุดธูปและลองทางเลือกธูปไฟฟ้าแทนที่

เมื่อเราช่วยกันแยกขยะ จะช่วยลดปริมาณในการเผาขยะลงและนำขยะที่สามารถรีไซเคิลกลับมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดได้อีกครั้ง ลองปรับเปลี่ยนการจุดธูปปกติที่ก่อให้เกิดฝุ่นและควันจากธูป ลองปรับมาใช้ธูปและเทียนแบบไฟฟ้า ทั้งนี้เพื่อลดปริมาณควันและการเผาไหม้ อีกทั้งยังลดความเสี่ยงในการเกิดอัคคีภัยได้ด้วย

  1. ติดตั้งเครื่องกรองอากาศ

แม้ว่าเราจะป้องกันฝุ่นด้วยการปิดหน้าต่างและประตูบ้านตลอดเวลา แต่ด้วยความที่เจ้าฝุ่นจิ๋ว pm 2.5 มีอนุภาคเล็กมาก เพียง 2.5 ไมครอนเท่านั้น ทำให้เครื่องปรับอากาศไม่สามารถดักจับและกรองได้ ดังนั้นจึงควรเพิ่มเครื่องกรองอากาศที่สามารถกรอง pm 2.5 ได้ และมีขนาดเหมาะสมกับห้องและบ้านของเรา เพื่อดูแลสุขภาพให้ดียิ่งขึ้น

  1. ปลูกต้นไม้ช่วยฟอกอากาศ

การปลูกต้นไม้นอกจากเพื่อความสดชื่นสวยงามแล้วนั้น ต้นไม้บางชนิดยังมีคุณสมบัติในการฟอกอากาศเช่น ต้นยางอินเดีย พลูด่าง เดหลี ไทรใบสัก เศรษฐีเรือนใน เศรษฐีพันล้าน ลิ้นมังกร เขียวหมื่นปีเป็นต้น

  1. ลดการใช้รถยนต์ส่วนบุคคล

            เนื่องจากรถยนต์มีการปล่อยควันจากท่อไอเสีย หรือการเสียดสีของยางกับพื้นถนนทำให้เกิดฝุ่นละออง จนสามารถสังเกตได้ว่าบริเวณที่มีการจราจรติดขัดมักมีอากาศที่ขมุกขมัวมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า หากเราลดอัตราการใช้รถบนท้องถนนได้ ก็จะสามารถช่วยลดสาเหตุการเกิดฝุ่นละอองลงตามไปด้วยเช่นกัน

  1. หมั่นเช็คสภาพรถ เพื่อลดควันดำ

การเผาไหม้ที่ไม่สมบูรณ์ของเครื่องยนต์ก่อให้เกิดควันดำและเป็นมลพิษทางอากาศ เราจึงควรหมั่นตรวจเช็คเครื่องยนต์ให้อยู่ในสภาพปกติอยู่เสมอ

PM2.5

เราจะป้องกันดูแลตัวเองจากฝุ่น pm2.5 และปกป้องผิวหนังอย่างไรดี?

อันดับแรกเลยควรหลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมกลางแจ้ง หากจำเป็นต้องออกไปด้านนอกอาคารควรสวมใส่หน้ากากชนิดที่สามารถกันฝุ่น PM2.5 ได้ และใส่ให้ถูกวิธี แนะแน่นอนว่าเมื่ออยู่ในบ้านหรือในอาคารก็ควรที่มีเครื่องฟอกอากาศชนิดที่มีแผ่นกรอง HEPA filter ด้วย คอยหมั่นรักษาสุขภาพให้แข็งแรง ออกกำลังกาย พักผ่อนให้เพียงพอ ทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ ดื่มน้ำให้เพียงพอ ควบคู่ไปกับการทานผลไม้หรือวิตามินที่สารต้านอนุมูลอิสระสูง เพื่อช่วยในการขับสารพิษจากร่างกาย

สำหรับการปกป้องผิวของเรานั้น ควรล้างหน้าและอาบน้ำทำความสะอาดผิวให้สะอาดทันทีหลังจากสัมผัสกับฝุ่นมลพิษ หรือใช้เครื่องล้างหน้า Lumispa IO เป็นตัวช่วย เมื่อออกไปทำกิจกรรมกลางแจ้งสามารถใส่เสื้อผ้าแขนยาว เพื่อช่วยปกป้องผิวไม่ให้ระคายเคือง และลดความไวต่อการอักเสบของผิว หมั่นทาครีมบำรุงผิวเพื่อคงความชุ่มชื้นและบำรุงผิวให้แข็งแรงขึ้น

นอกจากนี้ยังขอแนะนำการทานผลไม้หรือวิตามินเสริมสร้างภูมิต้านทาน เช่น การเลือกทานผลไม้ที่มีวิตามินซีสูง ช่วยต้านอนุมูลอิสระ แต่ถ้าหากต้องการเสริมภูมิคุ้มกันแบบเร่งด่วนและได้รับวิตามินที่เข้มข้น ขอแนะนำให้รู้จักกับเครื่องดื่ม G3 น้ำผลไม้รวมต้านอนุมูลอิสระ สกัดจาก 4 สุดยอดผลไม้อย่างผลแก็ก ซีลี่ ไชนีสไลเซียม และซีบัคธอร์น ซึ่ง 1 ช็อต จะมีคุณค่าทางสารอาหารและประโยชน์เสมือนกับการดื่มน้ำผลไม้จำนวน 170 แก้วเลยทีเดียว ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระที่ก่อให้เกิดมะเร็ง, ช่วยชะลอความแก่, ปกป้องและดูแลสุขภาพดวงตา, เสริมสร้างเกราะภูมิคุ้มกันร่างกาย, ปกป้องผิวจากมลภาวะ ช่วยให้ผิวเนียนใส

g3 nuskin

สรุป

เพื่อเป็นการดูแลปกป้องผิวและสุขภาพร่างกายจาก ฝุ่น pm 2.5 เราจึงควรหมั่นรักษาสุขภาพให้แข็งแรง จากการออกกำลังกาย พักผ่อนให้เพียงพอ ทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ ดื่มน้ำเปล่าให้เพียงพอ ควบคู่ไปกับการทานผลไม้หรือวิตามินที่สารต้านอนุมูลอิสระสูง เพื่อช่วยในการขับสารพิษจากร่างกายได้เองง่าย ๆ ทุกๆคนอย่าลืมดูแลตัวเองจากฝุ่น pm2.5 กันด้วยนะคะ

นูสกินโปรโมชั่น