โรคตาแห้ง โรคสุดฮิตที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ของคนวัยทำงาน
ในทุกๆ วันเราต้องใช้สายตาตลอดเกือบเวลา โดยเฉพาะยิ่งกลุ่มวัยทำงานต้องใช้สายตาในการจ้องหน้าจอคอมพิวเตอร์แทบจะตลอดเวลา ซึ่งเหตุผลเหล่านี้สามารถนำไปสู่การเป็นโรคตาแห้งได้ หลายๆคนอาจจะเคยได้ยินแค่คำว่าตาแห้งเพียงเท่านั้น ไม่ได้คิดว่าอาการตาแห้งนี้จะเป็นโรคโรคนึงด้วย โรคตาแห้งนี้มีอาการหลายอย่างที่สามารถรบกวนความสะดวกสบายในการใช้ชีวิตประจำวันของเราได้ ดังนั้นมาเรียนรู้เกี่ยวกับอาการของโรคตาแห้ง สาเหตุและปัจจัยที่ทำให้เกิดโรคนี้ และวิธีการรักษาและป้องกันที่เหมาะสมกันเถอะ!
สารบัญ
อาการของโรคตาแห้งมีอาการอะไรบ้าง
โรคตาแห้งสามารถแสดงอาการหลากหลายได้ซึ่งรวมไปถึงอาการดังนี้:
- แสบตา: อาจมีความรู้สึกเหมือนมีสิ่งแปลกปลอมอยู่ในตาที่ทำให้รู้สึกอาการแสบและไม่สบาย
- ระคายเคืองตาเหมือนมีสิ่งแปลกปลอมอยู่ในตา: รู้สึกว่ามีสิ่งต่าง ๆ ติดอยู่ในตาแม้ไม่มีอะไรอยู่จริง
- มองเห็นภาพไม่ชัด: อาจมีสิ่งที่เรียกว่า “เม็ดข้าว” หรือ “ผงเล็ก ๆ” ที่ปรากฏในสายตาเมื่อมองภาพ
- ต้องหรี่ตาหรือหลับตาเมื่อสัมผัสกับแสง: มีความรู้สึกเจ็บปวดหรือหลับตาเมื่อตาสัมผัสกับแสงแรง
- แสบตาง่ายเมื่อลมพัดเข้าตา: หากตามีการสัมผัสกับลมพัดหรือสภาพอากาศแห้ง อาจทำให้รู้สึกเจ็บปวดหรือแสบ
ข้อมูลจาก https://www.rama.mahidol.ac.th
สาเหตุโรคตาแห้งเกิดจากอะไร
โรคตาแห้งสามารถมีสาเหตุมาจากปัจจัยต่าง ๆ ซึ่งสามารถเกิดได้จากปัจจัยดังนี้:
- สิ่งแวดล้อม: ลมแรงหรือสภาพอากาศแห้งสามารถทำให้ระบบน้ำตาแห้งขาดความชุ่มชื้นได้ ทำให้เกิดอาการตาแห้งได้ง่ายขึ้น
- การใช้อุปกรณ์ดิจิทัล: การใช้โทรศัพท์มือถือหรือคอมพิวเตอร์เป็นเวลานานหรือการอ่านหนังสือติดต่อกันเป็นเวลานาน อาจทำให้ระบบน้ำตาลดความชุ่มชื้นและทำให้เกิดอาการตาแห้ง
- อายุ: อายุที่มากขึ้นโดยเฉพาะเพศหญิงมีความเสี่ยงที่สูงขึ้นในการเป็นโรคตาแห้ง
- การใช้ยา: บางประเภทของยาเช่นยารักษาสิวหรือยารักษาโรคภูมิแพ้อาจมีผลทำให้ระบบน้ำตาลดความชุ่มชื้นและทำให้เกิดอาการตาแห้งได้ อ่าน: การรับประทานยาที่ถูกต้อง
- การผ่าตัดหนังตาหรือการใช้เครื่องสำอางบริเวณดวงตา: การผ่าตัดหนังตาหรือการใช้เครื่องสำอางบริเวณดวงตาอาจทำให้ระบบน้ำตาขาดความชุ่มชื้นและเกิดอาการตาแห้ง
- การใส่คอนแทคเลนส์: การใส่คอนแทคเลนส์ในระยะยาวอาจทำให้ระบบน้ำตาลดความชุ่มชื้นลงและทำให้เกิดอาการตาแห้ง
โรคตาแห้ง วิธีรักษาและป้องกัน
สำหรับการรักษาและป้องกันโรคตาแห้ง คุณสามารถปฏิบัติตามขั้นตอนเหล่านี้ได้:
- ใช้น้ำตาเทียม: สำหรับผู้ที่มีอาการตาแห้งเรื้อรัง การใช้น้ำตาเทียมจะช่วยให้ระบบน้ำตาคงความชุ่มชื้นและลดอาการแสบและอาการระคายเคืองตาได้
- เลี่ยงการใช้อุปกรณ์ดิจิทัลต่อเนื่องเป็นเวลานาน: หากไม่จำเป็นจริงๆ ควรลดเวลาในการใช้โทรศัพท์มือถือหรือคอมพิวเตอร์ให้น้อยลงและให้พักผ่อนตาเป็นบางช่วงเวลา
- พักสายตาทุกๆ 30 นาทีถึง 1 ชั่วโมง: หลังจากใช้สายตาเป็นเวลานานในการทำงานหรือใช้งานอุปกรณ์ดิจิทัล ควรพักสายตาเพื่อให้ระบบน้ำตาได้พักผ่อนและฟื้นฟู
- มองไปที่ไกลๆ อย่างน้อย 6 เมตร นาน 2-5 นาที: เมื่อพักสายตา ควรมองไปที่จุดที่อยู่ห่างออกไป อย่างน้อย 6 เมตร เพื่อให้ตาได้พักผ่อนจากการโฟกัสในระยะใกล้
- พบจักษุแพทย์หากอาการไม่ดีขึ้น: หากคุณมีอาการตาแห้งที่รุนแรงหรือไม่ดีขึ้น ควรพบแพทย์เพื่อการวินิจฉัยและการรักษาที่เหมาะสม
วิตามินที่บำรุงสายตามีอะไรบ้าง
ลูทีน (Lutein) และซีแซนทีน (Zeaxanthin) เป็นสารสีเหลืองแดงที่อยู่ในกลุ่มแคโรทีนอยด์ (carotenoids) ทั้งสองเป็นสารอาหารที่มีความสำคัญต่อระบบสายตาและสายตาเสื่อมสภาพ เนื่องจากมีคุณสมบัติเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยปกป้องเนื้อเยื่อในสายตาจากการเสื่อมสภาพโดยสารอนุมูลอิสระที่สร้างอันตรายในสภาวะเครียด และสภาวะแสงสว่างสูงเช่นแสงแดด
ลูทีนและซีแซนทีนมักพบอยู่ในเนื้อเยื่อต่างๆ ในส่วนของสายตา เช่น ส่วนหน้าของมาตรฐานสายตา (macula) ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการมองเห็นที่ชัดเจน การบริโภคอาหารที่มีปริมาณลูทีนและซีแซนทีนสูงอาจช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคต้อกระจก (macular degeneration) ที่เกิดจากการเสื่อมสภาพของส่วนหน้าของมาตรฐานสายตาได้ ดังนั้นว่าหากคุณต้องใช้สายตาค่อนข้างมาก ควรดูแลระบบสายตาด้วยวิตามินดังต่อไปนี้ บำรุงด้วย iFormula ไอ ฟอร์มูล่า
- วิตามิน A เป็นสารสำคัญที่ช่วยในการรักษาสายตาและรักษาระบบสายตาให้เป็นปกติ
- วิตามิน C เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยลดความเสี่ยงของโรคต้อกระจก
- วิตามิน E เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดเนื้องอกในสายตา
- วิตามิน B2 เป็นสารที่สำคัญในการสร้างเนื้อเยื่อในสายตา
- วิตามิน D เป็นสารที่ช่วยส่งเสริมการดูแลสายตาในระยะยาว
สรุป โรคตาแห้งเกิดจากอะไร มีอาการและวิธีรักษายังไงบ้าง
โรคตาแห้ง เป็นโรคสำคัญที่คนวัยทำงานต้องรับมือกับการใช้หน้าจอคอมพิวเตอร์หรือโทรศัพท์เกือบตลอดเวลา อาการของโรคตาแห้งรวมถึงการแสบตา ระคายเคืองตา มองเห็นภาพไม่ชัด ต้องหรี่ตาหรือหลับตาเมื่อสัมผัสกับแสง แสบตาง่ายเมื่อลมพัดเข้าตานั้นเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดโรคตาแห้งได้ ซึ่งอาการเหล่านี้สามารถเกิดได้จากภาวะสิ่งแวดล้อม การใช้อุปกรณ์ดิจิทัลตลอดเวลา อายุที่เพิ่มขึ้น การใช้ยา การผ่าตัดหนังตาหรือใช้เครื่องสำอางบริเวณดวงตา และการใส่คอนแทคเลนส์อย่างต่อเนื่องเป็นเวลานาน
วิธีการรักษาและป้องกันโรคตาแห้งนั้นสามารถทำได้โดยการใช้น้ำตาเทียม หลีกเลี่ยงการใช้อุปกรณ์ดิจิทัลต่อเนื่องเป็นเวลานาน พักสายตาเป็นบางช่วงเวลา มองไปที่ไกลๆ อย่างน้อย 6 เมตร นาน 2-5 นาที ทานวิตามินบำรุงสายตาและหากอาการไม่ดีขึ้นควรพบแพทย์เพื่อการวินิจฉัยและการรักษาที่เหมาะสม